เพราะอดีตคือสิ่งที่เกิดขึ้นแล้วและไม่อาจแก้ไขได้ โยทกาจึงต้องมีชาติกำเนิดที่มีแม่เป็นโสเภณีด้วยความจำเป็นเพื่อเลี้ยงดูเธอ แต่ด้วยความรักดีโยทกาจึงพยายามพิสูจน์ตัวเองด้วยการสร้างคุณค่าให้ตัวเองจากความรู้ความสามารถ เมื่อแม่คิดตั้งต้นชีวิตใหม่กับเถกิง สุภาพบุรุษที่มอบรักแท้ให้ นั่นคือการชักนำให้โยทกาได้พบบททดสอบแห่งความรักกับชัชรัณ ผู้มีกำแพงอคติด้วยฝังใจกับความเจ็บปวดจากรักเก่าจนพาลเหมารวมโยทกาให้เลวร้ายไม่ต่างกัน เพื่อความรักโยทกาต้องทำลายกำแพงอคติ และทำให้ชัชรัณวางทิฐิ เปิดใจเพื่อเรียนรู้ปัจจุบัน พร้อมก้าวเดินไปในอนาคตร่วมกัน เพราะสุขแท้ของรักนั้นอยู่ที่ใจสองดวงหลอมรวมเป็นดวงเดียว…

สาวหล่ออย่าง ตุลญาณา ต้องอกหักรักคุดจากสาว ๆ มาถึงสามครั้งสามครา ทำให้เธอเริ่มคิดว่าจะยอมเป็นทอมกลับใจเพราะไม่อาจแบกรับความเจ็บปวดจากการโดนผู้หญิงด้วยกันหักอกซ้ำแล้วซ้ำเล่าได้อีกต่อไป และเมื่อคิดจะกลับมาเป็นผู้หญิงเต็มตัวก็คิดต่อไปว่าควรจะหาผู้ชายดี ๆ สักคนมาเป็นแฟน โดยมีสองสาวเพื่อนซี้คือ อโนมาและดารินทร์ คอยเป็นที่ปรึกษา เพื่อนซี้ทั้งสองพาตุลญาณาไปหาหมอดูยิบซี หมอดูทำนายว่าตุลญาณาจะมีคู่แท้เป็นผู้ชาย ซึ่งผู้ชายคนนั้นคือ คนที่มอบจูบแรก มอบลมหายใจ และชีวิตใหม่แก่เธอ

ต้องเรียกว่ามาแรงแซงเจ้าอื่นจริงๆ ครับสำหรับค่ายละครใหม่อย่าง Change 2561 ภายใต้การกุมบังเหียนของเจ้าแม่วงการบันเทิองอย่าง พี่ฉอด สายทิพย์ มนตรีกุล ณ อยุธยา เพราะในขระที่ผุ้จัดละครหลายค่ายต้องชะลอการผลิตลงเพราะสถานการณ์โควิต 19 แต่ทางพี่ฉอดเองไม่ปล่อยเวลาให้เสียไปโดยเปล่าประโยชน์เพราะเมื่อสถานการณ์ดีขึ้นทางค่าย Change 2561 ก็ได้ประกาศละครที่จะนำกลับมาปัดฝุ่นใหม่ให้คอละครได้ชมซึ่งก็คือละคร “บังเกิดเกล้า” ที่ได้ศรรามประกบคู่กับป็อก ปิยะธิดา ที่ทางเราได้นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น

โพน ภูเวียง (เบิร์ด กิตติธัช), ด้วง เดชอุดม และ บุ้ง บางพลี สามนักเลงอันธพาลลูกน้อง จ่าบุญถม นิยมไถ หรือ จ่าถม (ชาติชาย งามสรรพ์) รุมเล่นงานเพิกที่ท่ารถเมล์ แววดาว (มิว ลักษณ์นารา) เจ้าของร้านเสริมสวยเคลื่อนที่ นั่งรถตู้ขนอุปกรณ์เสริมสวยมากับเฉียบ ผู้ช่วยควบตำแหน่งคนขับรถของแววดาว มาเจอเหตุการณ์เข้าพอดี ชาวบ้านต่างมุงดูอยู่ห่าง ๆ ไม่มีใครกล้าห้ามหรือแจ้งตำรวจ

นุช (เบเบ้ – ธันย์ชนก ฤทธินาคา) กับ เม้ง (โทนี่ รากแก่น) กำลังจะมีลูกด้วยกัน ในขณะที่ความสัมพันธ์ของเม้งกับ ต๊อด (เต๋า-เศรษฐพงศ์ เพียงพอ) ก็เริ่มลึกซึ้งขึ้นเรื่อยๆ เม้ง จึงตัดสินใจไปขอเลิกกับต๊อด แต่ต๊อดไม่ยอม ทั้งคู่ทะเลาะกันอย่างหนัก เมื่อชีวิตต้องเลือกระหว่าง “แฟน” หรือ “เพื่อน” สุดท้ายเม้งจะหลุดจากอาการสับสนนี้อย่างไร ติดตามบทสรุปของเรื่องนี้กันได้ในตอนจบของซีรีส์ “Club Friday The Series 8…

“นาฬิกาที่เคยหยุดหมุน เริ่มเดินอีกครั้งอดีตที่ซ่อนเร้นไว้กลับถูกเปิดเผย หากความรักตั้งอยู่ในความลวง บทสรุปสุดท้ายจะเป็นอย่างไร” หนี้เสน่หา เป็นเรื่องราวของ สลิล(หนูนา หนึ่งธิดา) หญิงสาวโรงงานที่ต้องการพิสูจน์ความจริง หลังเธอรู้ว่าในอดีตแม่ของเธอเคยมีความเกี่ยวข้องกับตระกูลกิตติพาณิชย์กุล แถมยังถูกกล่าวหาว่าเป็นชู้กับ อาทิตย์(ต้อม พลวัฒน์) ซึ่งเป็นคู่หมั่นของ กิรณา(นุสบา ปุณณกันต์)

เมลดาคบหากับ เป็นหนึ่ง เอกนุกูลกิต และรอการแต่งงานหลังเรียนจบ โดยที่เธอก็ไม่แน่ใจนักว่าอยากแต่งงานกับเขาจริงรึเปล่า เป็นหนึ่งมีคนรักอยู่แล้ว คือ แพรวดาว และมาปรากฎตัวในงานแต่งงานด้วยชุดขาว ทำให้เมลดาไม่สบายใจนัก และแล้วงานแต่งงานที่กำลังดำเนินพิธีอยู่ก็ต้องจบสิ้นลง เมื่อชัยพงศ์ พ่อของเป็นหนึ่งมาประกาศยกเลิกการแต่งงาน เพราะรู้ข่าวมาว่ากิจการของประยุทธ พ่อของเมลดากำลังจะล้มละลาย ประยุทธเครียดมากจนโรคหัวใจกำเริบ และเสียชีวิตที่โรงพยาบาล สองแม่ลูกจึงตกที่นั่งลำบาก ญาติและมิตรสหายที่เคยมีก็หายไปหมด

เชฟหนุ่มฝีมือดีที่เพิ่งผิดหวังจากความรัก และตัดสินใจจะขายคอนโดเพื่อเอาเงินก้อนนี้ไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่ต่างประเทศ โดยเขาไม่รู้เลยว่าการให้เพื่อนที่ติดหนี้พนันเป็นนายหน้าจัดหาคนมาซื้อคอนโด จะนำมาซึ่งความวุ่นวายในชีวิต เมื่อคนที่มาซื้อคอนโดคือกลุ่มเพื่อนสาว 3 คน 3 สไตล์ที่เพิ่งผิดหวังจากความรักมาเช่นกัน

ท่ามกลางสังคมปัจจุบัน ซึ่งเต็มไปด้วยผู้คนที่ป่วยด้วยปัญหาทางใจ โรคซึมเศร้า และการฆ่าตัวตาย เขามีคนรักที่มีโรคซึมเศร้าเป็นโรคประจำตัวอันเกิดจากปัญหาชีวิตมากมายในครอบครัวของเธอ และสิ่งที่ผ่านมาในอดีต ซึ่งเขาดื้อดึงจะคบกับเธอ โดยไม่สนใจคำกล่าวห้ามของใคร ที่บอกว่า การต้องใช้ชีวิตอยู่กับผู้ป่วยโรคนี้ เป็นความยากลำบากในชีวิต แต่ในที่สุดเขาก็พบว่า สิ่งที่ยากยิ่งกว่าคือการที่เขาไม่สามารถจะแยกออกถึงอาการเจ็บป่วยด้วยโรคจริงๆ หรือเป็นแค่การเอาแต่ใจ และเรียกร้องอยากจะให้เขาทำทุกอย่างตามที่เธอต้องการ ปัญหาเพิ่มขึ้น เมื่อเขารับเธอเข้ามาอยู่ในบ้าน และเกิดความขัดแย้งอย่างรุนแรงกับแม่ของตัวเอง เพราะแม่คิดว่าการที่ครอบครัวของเขาซึ่งกำลังอยู่กันอย่างมีความสุข แต่เปรียบเสมือนเขาคือคนที่นำไฟเข้ามาในบ้าน ต้นเหตุของความร้อนรุ่มวุ่นวายนานับประการ สิ่งที่คนรักของเขาสร้างปัญหา ไม่ใช่เพียงแค่อาการป่วยของโรคซึมเศร้า แต่รวมไปถึงการติดเหล้า ไปจนถึงพยายามฆ่าตัวตาย ส่วนเขาความยากลำบากที่สุดอีกอย่างหนึ่งในชีวิตก็คือ การที่ต้องอยู่ตรงกลางระหว่างผู้หญิงสองคนที่เขารักทั้งคู่ และไม่มีคนไหนที่เขาสามารถจะตัดออกไปจากชีวิตได้ เพราะคนหนึ่งคือ….แม่ และอีกคนคือ….เธอ

“บท “เล้ง” ถือเป็นบทที่ยากและท้าทายที่สุดในชีวิตการแสดงของผมเลยครับ นอกจากบู๊หนักแล้ว ยังมีเรื่องของอารมณ์ตัวละครที่เข้มข้นด้วย ผมจะปรึกษาพี่โอ๋-คฑาเทพ ไทยวานิช(ผู้กำกับ)ตลอดครับ พี่โอ๋จะมีมุมมองที่น่าสนใจและทำให้ผมเข้าถึงตัวละคร ส่วนเรื่องบู๊ ตัวผมก็ต้องฟิตร่างกายตลอดเวลา เพื่อให้พร้อมกับซีนบู๊ยากๆ ซึ่งมีเยอะจนบริษัทต้องทำประกันชีวิตให้ สำหรับคาแรกเตอร์ของ “เล้ง” เป็นเด็กหนุ่มชาวดำเนินสะดวก เขาเกิดในฤกษ์ดาวโจร และถูกซินแสทำนายไว้ว่าถ้าไม่เป็นพ่อค้าที่มั่งคั่ง ก็จะเป็นมหาโจรที่ยิ่งใหญ่ แต่ด้วยโชคชะตาและการตัดสินใจของเขา ทำให้เขาเลือกที่จะเข้าสู่เส้นทางโจร และต้องเผชิญกับการตามล่าของ “สันติ” นายตำรวจมือดี ซึ่งรับบทโดยพี่แท่ง-ศักดิ์สิทธิ์ แท่งทอง เรื่องนี้ผมรู้สึกโชคดีที่ได้ร่วมงานกับนักแสดงระดับตำนานหลายท่าน ทั้ง อาตู่-นพพล, พี่ต่าย-เพ็ญพักตร์ รวมถึงพี่แท่ง…

อำนาจ เกียรติยศ และความสุขสบาย ทำให้มนุษย์ลุ่มหลง อยากได้ อยากมี ทำให้กิเลสตัณหาครอบงำจิตใจ ดังเช่น…เรื่องราวในเรือนของ พระยศ (ปฏิภาณ ปฐวีกานต์) ข้าราชการอนาคตไกล ที่แต่งงานกับ ปิ่น (ณัฐริกา ธรรมปรีดานันท์) หลังแต่งงาน ปิ่นกลับพบว่าพระยศนั้นมีเมียบ่าวอยู่แล้ว คือ แหวน (รามาวดี นาคฉัตรีย์) แต่ด้วยความที่แหวนไม่ใช่คนทะเยอทะยาน รักและเคารพปิ่น ปิ่นจึงเอ็นดูรักใคร่แหวน ทั้ง 3 จึงใช้ชีวิตด้วยกันอย่างปกติสุข กระทั่งวันหนึ่ง เถ้าแก่ซ้ง…

รัก (เอิร์ท ธนกฤต) และ เดียว (วิน ทรงสิน) หนุ่มต่างขั้วที่ไม่ถูกชะตากันตั้งแต่พบหน้า แต่บังเอิญต้องมาใช้ชีวิตร่วมกันเกือบ 24 ชั่วโมง เมื่อหัวหน้างานจอมกวนต้องมาเช่าบ้านของลูกน้องจอมโวยวาย และการเอาคืนที่สุดแสบแต่แอบแฝงไปด้วยความฟินระหว่างที่บ้านและที่ทำงานจึงเกิดขึ้น