ละคร “โฮะ แฟมิลี่” เป็นเรื่องราวของครอบครัวหนึ่งมีพี่น้องกำเนิดจากแม่สี่คนด้วยกัน พวกเขาต่างใช้ชีวิตกันไปคนละแบบแต่แล้วกลับต้องมาอยู่ร่วมกัน ซึ่งมีทั้ง หมูป่า ลูกชายคนเล็กเกิดจากแม่คนไทย,หลินจือ ลูกสาวคนที่สามซึ่งเป็นลูกครึ่งจีน เมื่อแม่เสียและรู้ว่าตนเองมีพี่น้องจึงได้ย้ายจากเมืองจีนมาอยู่ที่ไทย,ทรัฟเฟิล สาวสวยหุ่นเป๊ะ ลูกครึ่งไทยยุโรป ที่มีนิสัยฟุ่มเฟือยและใช้จ่ายเกินตัวจนทำให้คนที่บ้านต่างเอือมระอา และจีซุน พี่ใหญ่ของบ้านซึ่งเป็น ลูกครึ่งไทย-อเมริกาใต้ และเป็นเจ้าของร้านนมร่างท้วม ที่มีนิสัยร่าเริงและมักกุมความลับของคนในบ้านแทบทั้งหมด ซึ่งจีซุนถือว่าเป็นสีสันประจำบ้านที่สร้างความสนุกสนานให้กับพี่น้อง และมักจะจุดประเด็นเรื่องราวต่างๆอยู่เสมอ

อรวี (หยาด-หยาดทิพย์ ราชปาล) ถูก ธาร (ฟลุค-เกริกพล มัสยวาณิช) สามีผู้แสนดีทรยศหักหลังด้วยการแอบคบชู้กับ วิชุดา (หญิง-รฐา โพธิ์งาม) พี่สาวต่างแม่ที่กลับมาแก้แค้น โดยมี สุวิภา (ต้อม-ณหทัย พิจิตรา) เพื่อนนักธุรกิจรุ่นพี่ของอรวีเป็นผู้ให้ข้อมูล แถมยังพาให้อรวีตามไปอาละวาดจับได้คาหนังคาเขา ซึ่งตอนนั้นธารก็ได้ขอหย่ากับอรวี เพราะวิชุดากำลังตั้งท้อง แต่อรวีไม่ยอมและไม่ให้วิชุดาได้อะไรไปทั้งสิ้น ธารจึงยอมออกไปแต่ตัว และขอ เอกองค์ หรือ เอก (จอส เวอาห์) และ อัจรี…

จำความได้ ขมรู้แต่ว่าโลกแคบๆ ของตัวเองนั้นมีแต่แม่คนเดียวเท่านั้น แขซัดเซพเนจรมากับลูกตั้งแต่ยังแบเบาะ ครูสมพรเจ้าของโรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่งในต่างจังหวัด(ริมทะเล) เวทนาจึงรับเลี้ยงแม่ลูกไว้ แขทำงานเป็นภารโรงช่วยงานโรงเรียนเต็มกำลัง แลกกับการที่ครูสมพรให้โอกาสขมได้เรียนหนังสือ แขหวังในสิ่งเดียวคือสักวันความทรงจำว่าตนคือใครจะกลับมา เพราะลูกจะได้ไม่ต้องลำบากอีกต่อไป แต่ยิ่งแขใช้ความพยายามในการเรียกความทรงจำกลับคืนมาเท่าไรก็ยิ่งทำให้หัวใจของเธอบอบช้ำเท่านั้น จนกระทั่งวันหนึ่งเมื่อครูสมพรเรียกซ้อมวงมโหรีเครื่องสายเพื่อแสดงในงานวันเกิดท่านผู้ว่าฯพี่ชายของเธอ เสียงเพลงโสมส่องแสงเหมือนปลุกเร้าบางสิ่งในจิตใต้สำนึกของแขแขร้องเพลงโสมส่องแสงได้อย่างไพเราะหมดจด สร้างความอัศจรรย์ใจให้ทุกคน พร้อมๆกับความทรงจำบางส่วนของแขกลับคืนมา สองแม่ลูกหวังว่าในคืนวันงานปาฎิหารย์จะบังเกิด

เรื่องราวของ “ทานตะวัน” (กั้ง-วรกร) หนุ่มนักเรียนนอกผู้ได้รับคำสั่งเสียจากพ่อ ให้ตามทวงที่ดินของตระกูลที่ถูกโกง คืนมาให้ได้ ทานตะวันต้องจึงวางแผนปลอมตัวเข้าไปอยู่ในบ้านของ จันทร์วาด (เฟิร์น-นพจิรา) ซึ่งเขาเคยช่วยชีวิตเธอเอาไว้จากการถูกชายหื่นลวนลาม ทานตะวันเริ่มสืบหาข้อมูลต่างๆ และทำทุกอย่างเพื่อทวงสิทธิ์ของตนคืน ขณะเดียวกันก็อดหวั่นไหวไปกับความน่ารักของจันทร์วาดไม่ได้ สุดท้ายเรื่องราวของพ่อแง่แม่งอนที่เป็นคู่กัดกันมาโดยตลอดจะลงเอยอย่างไร?

ลิก้าพยายามยั่วพายุขณะที่ไปนอนค้างที่บ้านของเขา แต่พายุก็เลี่ยงที่จะไม่ยุ่งและบอกให้ลิก้าไปนอนพัก ส่วนน้ำขิงงอนตุ๊บป่องไปเสียแล้ว แต่พอพายุส่งข้อความไปอธิบาย ก็หายงอนแต่ก็ยังคิดมากอยู่ดี เช้ามาพายุพาลิก้าไปเยี่ยมแม่เนียนที่โรงพยาบาล พายุออกไปรับโทรศัพท์ ลิก้าเลยเข้าไปขอโทษแม่เนียนที่พูดจาไม่ดีกับแม่ แล้วบอกว่าลิก้าจะเลิกคิดกับพี่พายุ แต่พอพายุขอตัวกลับ ลิก้าก็วิ่งตามแล้วชวนพายุไปทานข้าว แต่พายุขอตัวกลับก่อน เพราะต้องไปทำงาน แล้วตอนเที่ยงพายุบอกว่าต้องไปทานข้าวกับน้ำขิงด้วย ลิก้าแกล้งทำจะเป็นลม พายุบอกจะพาไปให้หมอตรวจ ลิก้าไม่ไปอ้างว่าเป็นเพราะนอนน้อย พายุก็เลยบอกว่างั้นเขาก็จะได้ไปทำงาน ให้ลิก้าพักผ่อน ลิก้าน้อยใจแต่ก็ทำอะไรไม่ได้

เรื่องราวในวัยเด็กที่ยังคงเป็นฝันร้ายสำหรับณจันทร์ เธอจำได้ว่าคืนวันที่เงียบสงบนั้น ทั้งเธอและพ่อได้ถูกเสือตัวหนึ่งทำร้ายเข้าอย่างจัง แม้ว่าในวัยเด็กที่เธอจะจำอะไรไม่ได้มากนัก แต่มีสิ่งนึงที่เธอได้สูญเสียไปอย่างไม่มีวันกลับมานั่นก็คือ การตายของพ่อเธอ ส่วนตัวของเธอเองก็ถูกกรงเล็บที่แหลมคมจากเสือทำร้ายจนเกิดอาการบาดเจ็บ เมื่อครบรอบวันตายของพ่อเธอ ณจันทร์ก็ได้ไปทำบุญที่วัดกับป้านวล ญาติคนเดียวของเธอที่มีอยู่ ด้วยความหวังดี ป้านวลได้บอกกล่าวและตักเตือนณจันทร์ว่าในปีนี้ ที่ณจันทร์อายุครบรอบ25 ปี ซึ่งเป็นวัยเบญจเพศพอดี ควรที่จะทำบุญสะเดาะเคราะห์เสียเพื่อไม่ให้เรื่องร้ายเกิดขึ้นกับตนเอง แต่หญิงสาวก็ไม่รับปากเป็นหมั้นเป็นเหมาะมากนัก แต่ก็สัญญาว่าจะรับประทานอาหารมัสวิรัติแทนเพื่อเป็นการไถ่โทษ

เรื่องย่อละคร สัญญาแค้นแสนรัก เป็นเรื่องราวของ วงแหวน(วิว วรรณรท) ที่เตรียมจัดงานแต่งงานกับแฟนหนุ่ม จึงตัดสินใจเลือกใช้บริการบริษัทจัดงานแต่งงานของ เจษฎา(ไนกี้ นิธิดล) ที่มีปัญหาด้านการเงิน จนเมื่อถึงวันจัดงานแฟนหนุ่มกลับเชิดเงินสินสอดหนีไป จนทำให้งานแต่งล่ม

ไผ่ ผู้บ่าวไทบ้าน (ยุทธนา เปื้องกลาง) ที่ใช้ชีวิตแบบไร้จุดหมายหลังพ่อกับแม่ตายไป มีแต่ไก่ชนและจักรยานเก่าคู่ใจ เขาเลยใช้ชีวิตง่าย ๆ กินเหล้าสนุกสนานกับเพื่อนไปวัน ๆ วันไหนไม่มีเงินก็พากันยกพวกไปตีไก่ ได้เงินมาก็ลงขวดเหล้าตั้งวงกับเพื่อนร่วมแก๊ง อย่าง บักโอ๊ต (รณวีร์ เสรีรัตน์), บักโจ้ (เฉลิมพล ทิฆัมพรธีรวงศ์), บักเอก (วราวุธ โพธิ์ยิ้ม) และ บักเบิ้ล (ธีระชาติ ธีระวิทยากุล) ไผ่ก็จะอยู่กับพวกนี้ซะเป็นส่วนใหญ่ พอมีงานบุญงานหมอลำก็เมาแล้วไปเต้นมั่วหน้าเวทีจนชาวบ้านเอือมระอา

เรย์ (มารี เบรินเนอร์) หญิงสาวที่ประสบอุบัติเหตุรถพลิกคว่ำ จนทำให้ รัน (อัค อัครัฐ) ผู้เป็นพี่ เสียชีวิตคาที่ เรย์ฟื้นขึ้นมาแล้วพบว่าเธอกลายเป็นคนที่มีสัมผัสมหัศจรรย์ ทำให้ สารวัตรภูมิ (นิว วงศกร) เพื่อนสนิทของรัน เห็นความสามารถด้านการดมกลิ่นของเรย์ เขาจึงชวนเรย์มาเป็นสายลับในทีม

ชีวิตของ ลันตา(ภีรนีย์ คงไทย) กำลังจะประสบความสำเร็จ ได้เลื่อนเป็นบรรณาธิการนิตยสารผู้หญิง แถมความสัมพันธ์กับ อนุชิต(อดิสร อรรถกฤษณ์) ผู้บริหารหนุ่มสุดหล่อก็กำลังคืบหน้า ไปได้ดี โดยมีเพื่อนซี้ ธัญญาเรศ(อริสรา ทองบริสุทธิ์) และ แพท(เจสสิก้า ภาสะพันธุ์) ซึ่งทำงานอยู่ด้วย ช่วยเชียร์ แต่แล้วฝันของลันตาก็สลายเพราะ อรขจี(นาตาลี เดวิส) ภรรยาของอนุชิตมาประกาศตัวที่บริษัท แถมไล่ตบตีลันตา ด้วยความโมโห ลันตาขอลาออก ฝันทุกอย่างสลายไปในพริบตา

(ฌอห์ณ จินดาโชติ) ช่างภาพหนุ่มสุดฮอตอันดับต้นๆของประเทศ ขึ้นชื่อว่าเป็นเสือผู้หญิงตัวพ่อ รักอิสระไม่ต้องการผูกมัดแต่มีฝีมือถ่ายภาพนู๊ดระดับเทพ ไม่ว่าใครเป็นแบบอาร์คสามารถถ่ายให้เธอแจ้งเกิดในวงการได้อย่างไม่ยากเย็น จนสาวๆ นางแบบไม่ว่ารุ่นเล็กรุ่นใหญ่ ต่างต้องการให้ถ่ายรูป มีเพื่อนซี้สองคน เพื่อนคนแรกคือแบงค์(ฮั่น-อิสริยะ) ลูกชายเพียงคนเดียวของเจ้าของโชว์รูมนำเข้ารถ Super Car ชื่อดัง ถึงแม้จะเป็นลูกชายคนเดียวที่ต้องสืบทอดกิจการ แต่แบงค์ก็ไม่เคยสนใจธุรกิจเลยแม้แต้น้อย มักใช้ชีวิตสุดเหวี่ยงทุกครั้งที่ทำได้ไม่ว่าจะเป็นปาร์ตี้หรือเรื่องผู้หญิง ด้วยความใจป๋าและฐานะอันร่ำรวย ทำให้มีสาวๆ มาสมัครเป็นเลขามากมาย และแบงค์ก็ไม่เคยปล่อยให้พวกเธอรอดไปได้ จนผู้เป็นแม่เอือมระอาแต่ก็ไม่รู้จะทำอย่างไรเพราะเธอก็ยุ่งกับงานเสมอ

เรื่องราวของคนแอบรัก ที่ต่อให้เวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน เขาก็ยังจะรักแค่คนเดิม เหมือนกับดาวเหนือที่ต่อให้โลกจะหมุนไปอีกสักกี่รอบ ดาวเหนือก็จะยังคงอยู่ที่ตำแหน่งเดิม แค่รอเวลาที่ใครอีกคนจะยอมเปิดใจ แล้วปล่อยให้ดาวนำทาง ดั่งเรื่องราวของ ดาวเหนือ (ดัง ณัฎฐ์ฐชัย) ที่โคจรมาเจอกับรักครั้งแรกอีกครั้งอย่าง คาบคลื่น (จุง อาเชน) เพื่อนร่วมชั้นที่เขาเคยบอกชอบก่อนจะบินไปเรียนต่อที่เยอรมัน แต่คำสารภาพที่รวบรวมความกล้ามานานกลับได้รับเพียงคำว่า “เดินทางปลอดภัยนะ” ตอบกลับมา