วันหนึ่งเศรษฐีทารกพาขนิษฐาไปจับปลาในคลอง ไม่ว่าจะเหวี่ยงแหไปกี่ครั้งก็ได้มาเพียงปลาบู่ทองที่ตั้งท้องตัวเดียวเท่า นั้น จนกระทั่งพลบค่ำเศรษฐีก็ตัดสินใจที่จะเอาปลาบู่ทองที่จับได้เพียงตัวเดียว กลับบ้าน ทว่าขนิษฐาผู้เป็นภรรยาเกิดความสงสารปลาบู่ ขอให้เศรษฐีปล่อยปลาไป เศรษฐีทารกเกิดบันดาลโทสะจึงฟาดนางขนิษฐาจนตายและทิ้งศพลงคลอง เมื่อกลับถึงบ้านเอื้อยก็ถามหาแม่ เศรษฐีจึงตอบไปว่าแม่ของเอื้อยได้หนีตามผู้ชายไป และจะไม่กลับมาบ้านอีกแล้ว นับตั้งแต่วันนั้นขนิษฐีผู้เป็นแม่เลี้ยงของเอื้อย และอี่กับอ้ายน้องสาวทั้งสองก็กลั่นแกล้งใช้งานเอื้อยเป็นประจำโดยที่เศรษฐี ทารกไม่รับรู้และไม่สนใจ

เทวัญ(ดอม เหตระกูล) ทรชนในคราบผู้ดีมีอิทธิพลเหนือกฎหมาย เมื่ออยากได้เพชรของใครก็ต้องได้ โดยที่กฎหมายเอื้อมไม่ถึง แต่ก็มักมีก้างชิ้นโตเป็น ดนุภพ(จรณ โสรัตน์) ที่เบื้องหลังเป็น “จอมโจรกุหลาบขาว” ผู้รับจ้างโจรกรรมเพชรคืนเจ้าของและทิ้งสัญลักษณ์กุหลาบขาวไว้เย้ยหยันทุกครั้ง โดยมี ดนัยเทพ(นิธิ สมุทรโคจร)ผู้เป็นอาคอยประดิษฐ์อาวุธลับและช่วยเหลือ และมังกี้หรืออนุภาพ(อนันต์ บุนนาค)เป็นผู้ว่าจ้างในการโจรกรรมเพชร แต่เบื้องหน้านั้นดนุภพเป็นหนุ่มเพลย์บอยรูปหล่อ เจ้าของร้านเพชรชื่อดัง

เป็นเรื่องราวความรักระหว่าง การะเกด พยาบาลสาวผู้ยึดมั่นคุณธรรมและความกตัญญู เธอได้มาพบรักกับ อรชุน นักธุรกิจหนุ่มผู้เพียบพร้อมไปทุกอย่าง ทั้งคู่พยายามปรับตัวและคบหากันด้วยความเข้าใจแต่แล้วก็มีอุปสรรคเกิดขึ้นกับความรักทั้งคู่ เมื่อการะเกดต้องรับผิดชอบกับเหตุการณ์บางอย่าง จึงทำให้เธอตัดสินใจต้องปฏิเสธอรชุนไป เป็นสิ่งที่ตัดสินใจได้ยากอย่างยิ่งสำหรับการะเกด ระหว่าง ความรัก ความรับผิดชอบและการทดแทนบุญคุณ โดยที่ทิ้งแผลในใจให้กับอรชุนเป็นอย่างมาก แต่แล้วการะเกดก็ได้ค้นพบความจริงแล้วว่า เธอไม่สามารถที่จะเป็นพรหมลิขิต กำหนดชีวิตใครไว้ได้ นี่จึงเป็นบทเรียนครั้งสำคัญในชีวิตที่ทำให้เธอได้ค้นพบกับความสุขและสิ่งที่ตามหามานานอย่างแท้จริง

อรทัย (โสภิตนภา ชุ่มภาณี) ลูกสาวคนเดียวที่เกิดจากเมียหลวงของ ศิวา (เกรียงไกร อุณหนันท์) เจ้าของนามสกุลใหญ่ “เจนจรัสตระกูล” หลังจากแม่แท้ๆของเธอตาย ศิวาก็หันไปคว้าเอา อาภา (กัลยา เลิศเกษมทรัพย์) เด็กรับใช้ในบ้านรุ่นราวคราวเดียวกับอรทัยมาเป็นเมีย อรทัยจึงเกลียดอาภามาก สร้างความหนักใจให้ศิวา จนกระทั่งอาภาคลอดลูกชายคือศุวิล หรือ ลม (ไนกี้-นิธิดล ป้อมสุวรรณ) ที่ได้เป็นเจ้าของนามสกุล เจนจรัสตระกูล อีกคนหนึ่ง

มธุรส สาวสวยที่มีชีวิตอันเพอร์เฟ็ค มีความเป็นอยู่ที่ดีและร่ำรวย แต่แล้วชีวิตครอบครัวก็มาถึงทางตันเมื่อเธอตัดสินใจที่จะหย่าขาดกับสามีของตนเองนามว่า ประวิทย์ เนื่องจากว่าเขามีอารมณ์ที่รุนแรงรวมถึงมีนิสัยเจ้าชู้อย่างมาก มธุรสไม่สามารถที่จะทนกับเขาได้อีกต่อไป เธอยอมยกทรัพย์สินให้เขาแทบทั้งหมดเพื่อแลกกับสิทธิ์การได้เลี้ยงดูลูกสาว ซึ่งเป็นแก้วตาดวงใจของเธอ ชีวิตหลังหย่าของมธุรส เธอได้พาผึ้ง ซึ่งเป็นลูกสาวคนเดียวออกมาเช่าบ้านอยู่ข้างนอก ทั้งสองมีชีวิตที่ลำบากและมีเงินติดตัวมาไม่มาก มธุรสจึงตัดสินใจเช่าบ้านอยู่ในย่านสลัมที่เต็มไปด้วยความน่ากลัวและอันตราย แต่ก็ต้องจำยอมเพราะมีทางเลือกไม่มากนัก แม้ว่าเพื่อนของเธอจะยินดีช่วยเหลือแต่มธุรสก็ไม่ยอม เพราะไม่อยากให้ใครเดือดร้อน เธอได้งานใหม่เป็นเสมียนในบริษัทของ กุลชาติ ซึ่งเป็นพ่อของเพื่อนผึ้ง โดยที่กุลชาติก็มีความสนใจมธุรส แต่แล้วชีวิตมีเหตุพลิกผันอย่างร้ายแรง เมื่อมธุรสและผึ้งได้เข้าไปพัวพันกับพวกของแก๊งค์นักเลงในย่านสลัม จนทำให้ไอ้แป๊วและพวกถูกจับ ทำให้แก๊งค์นักเลงนั้นต่างโกรธแค้นอย่างมาก จึงได้ดักฉุดมธุรสและผึ้งไปข่มขืน เหตุการณ์หลังจากนั้นทำให้ผึ้งกลายเป็นคนเสียสติต้องรักษาตัว และมีอาการไม่ปกติทางจิต พวกแก๊งค์นักเลงแม้ว่าจะโดนลงโทษแต่ติดคุกไม่กี่ปีก็ออกมาแล้ว

ม.ล.นภดารา ธิดาสาวคนเดียวของ ม.ร.ว.นภัสรพี ศิวาวงศ์ ลักลอบมีความสัมพันธ์กับชายหนุ่มต่ำศักดิ์จนตั้งครรภ์ เธอถูกนภัสรพีส่งตัวไปอยู่เชียงใหม่เพื่อให้พ้นจากเสียงครหา แต่โชคร้ายในคืนที่นภดาราคลอดลูกเกิดไฟไหม้ที่โรงพยาบาล ลูกสาวของเธอหายสาบสูญไป นภดาราล้มป่วยลงด้วยความตรอมใจตั้งแต่บัดนั้น 18 ปีต่อมา นภดาราอาการทรุดหนัก นภัสรพีสงสารลูกจึงให้ ปราบ ทนายคนสนิทไปหาเด็กหญิงกำพร้ามาอุปโลกน์เป็นลูกสาวของนภดารา โดยเธอบอกว่าได้ให้ล็อกเก็ตประจำตระกูลและแหวนเพชรรูปดาวติดตัวลูกไว้ด้วย นภัสรพีจึงสั่งทำล็อกเก็ตอันใหม่ให้ปราบนำติดตัวไปที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าในเชียงใหม่ ปราบได้พบกับ กอหญ้า เด็กสาวที่มีทั้งล็อกเก็ตและแหวนรูปดาว คุณแม่ยุพา บอกว่าพบกอหญ้าถูกทิ้งไว้หน้าโบสถ์เมื่อ 18 ปีก่อนพร้อมของสองสิ่งนี้ ปราบจึงบอกความจริงกับกอหญ้าว่าเธอคือทายาทของตระกูลศิวาวงศ์อันมั่งคั่ง กอหญ้าเดินทางกลับไปกรุงเทพฯ พร้อมคุณแม่ยุพาและปราบ

พวกเขาตกลงที่จะค้างที่โฮมสเตย์นี้ 5 คืนด้วยกัน หลังจากที่พวกเขาตัดสินใจจะพัก ณ ที่แห่งนี้ พวกเขาก็ได้เจอกับอะไรแปลกๆมากมาย ทั้งป้าจันทร์ที่ทำตัวลึกลับ เหมือนซ่อนความลับอะไรบางอย่าง และเก๋ง ที่เปลี่ยนไปเป็นคนละคนเมื่อออกมาจากถ้ำละว้า ยังมีความลับอะไรอีกที่พวกเขายังไม่รู้ แล้วพวกเขาจะต้องเจอกับอะไรอีกบ้างไปชมกันเลย

ชีวิตที่หรูหรา ทั้งกิน เที่ยว และช้อปปิ้ง อย่างจุใจของคะนึงนาง (แพทริเซีย กู๊ด) ต้องหมดสิ้นลงจากเหตุการณ์ที่ทำให้โชคชะตาของเธอพลิกผัน แต่เดิมไพรัช (มนตรี เจนอักษร) และรัศมี (จินตหรา สุขพัฒน์) ผู้เป็นพ่อและแม่ของคะนึงนาง เป็นนักธุรกิจใหญ่ที่ประสบความสำเร็จ ร่ำรวย แล้วไพรัชได้ถูกเพื่อนหลอกให้เล่นหุ้นและโกงเงินไปจนหมดตัว ทำให้ไพรัชกลายเป็นบุคคลล้มละลายโดยพริบตา และอะไรๆในชีวิตของนางก็เปลี่ยนไป ทั้งข้าวของเครื่องใช้ในบ้าน รถยนต์ กระเป๋า รองเท้าแบรนด์เนมทั้งหลายที่นางเคยได้เป็นเจ้าของก็ถูกรัศมีผู้เป็นแม่นำไปขายจนหมด ส่วนน้องสาวของนาง ได๋ (ชาร์เลท วาศิตา แฮเมเนา) จากเคยที่เป็นไม้เบื่อไม้เมากันก็เริ่มปรับความเข้าใจ…

“บท “เล้ง” ถือเป็นบทที่ยากและท้าทายที่สุดในชีวิตการแสดงของผมเลยครับ นอกจากบู๊หนักแล้ว ยังมีเรื่องของอารมณ์ตัวละครที่เข้มข้นด้วย ผมจะปรึกษาพี่โอ๋-คฑาเทพ ไทยวานิช(ผู้กำกับ)ตลอดครับ พี่โอ๋จะมีมุมมองที่น่าสนใจและทำให้ผมเข้าถึงตัวละคร ส่วนเรื่องบู๊ ตัวผมก็ต้องฟิตร่างกายตลอดเวลา เพื่อให้พร้อมกับซีนบู๊ยากๆ ซึ่งมีเยอะจนบริษัทต้องทำประกันชีวิตให้ สำหรับคาแรกเตอร์ของ “เล้ง” เป็นเด็กหนุ่มชาวดำเนินสะดวก เขาเกิดในฤกษ์ดาวโจร และถูกซินแสทำนายไว้ว่าถ้าไม่เป็นพ่อค้าที่มั่งคั่ง ก็จะเป็นมหาโจรที่ยิ่งใหญ่ แต่ด้วยโชคชะตาและการตัดสินใจของเขา ทำให้เขาเลือกที่จะเข้าสู่เส้นทางโจร และต้องเผชิญกับการตามล่าของ “สันติ” นายตำรวจมือดี ซึ่งรับบทโดยพี่แท่ง-ศักดิ์สิทธิ์ แท่งทอง เรื่องนี้ผมรู้สึกโชคดีที่ได้ร่วมงานกับนักแสดงระดับตำนานหลายท่าน ทั้ง อาตู่-นพพล, พี่ต่าย-เพ็ญพักตร์ รวมถึงพี่แท่ง…

นุช (เบเบ้ – ธันย์ชนก ฤทธินาคา) กับ เม้ง (โทนี่ รากแก่น) กำลังจะมีลูกด้วยกัน ในขณะที่ความสัมพันธ์ของเม้งกับ ต๊อด (เต๋า-เศรษฐพงศ์ เพียงพอ) ก็เริ่มลึกซึ้งขึ้นเรื่อยๆ เม้ง จึงตัดสินใจไปขอเลิกกับต๊อด แต่ต๊อดไม่ยอม ทั้งคู่ทะเลาะกันอย่างหนัก เมื่อชีวิตต้องเลือกระหว่าง “แฟน” หรือ “เพื่อน” สุดท้ายเม้งจะหลุดจากอาการสับสนนี้อย่างไร ติดตามบทสรุปของเรื่องนี้กันได้ในตอนจบของซีรีส์ “Club Friday The Series 8…

เป็นเรื่องเล่าจาก เต้ (รถเมล์ คนึงนิจ) หญิงสาวที่เคยต้องเจ็บปวดกับการถูกมือที่สามแย่งคนรัก เธอจึงเลือกที่จะเป็นมือที่สามแล้วไปแย่งคนรักคนอื่นบ้าง เพื่อที่จะได้ไม่ต้องเป็นฝ่ายที่เสียใจอีก แต่สุดท้ายเธอกลับต้องพบกับความเจ็บปวดเสียใจที่หนักหนายิ่งกว่าการเป็นมือที่สาม ความเจ็บปวดที่เธอเคยพบตอนโดนแย่งคนรักไป ยังไม่เจ็บปวดเท่าตอนนี้ที่เธอกำลังเป็นมือที่สามของคนอื่น แถมเต้ยังท้องกับสามีของคนอื่นอีก บทสรุปของการเป็นมือที่สามของเต้จะเป็นอย่างไร

คุณนายน้ำเพชร เป็นคุณนายที่ไม่เต็มบาท แต่ไม่มีใครกล้าหือเพราะว่าเป็นเจ้าของที่ให้เช่ามากมาย คุณนายรักษาผลประโยชน์ตัวเองเต็มที่จนชาวบ้านพูดว่า ลูกผัวไม่มีจะงกสมบัติไว้ให้ใคร คุณนายเป็นลูกสาวคนเดียวที่สืบทอดตระกูลของท่านเจ้าคุณและท่านผู้หญิง ถ้าหนุ่มคนไหนจะแต่งงานต้องยอมเปลี่ยนมาใช้นามสกุล พนมดุลยภาค แล้วต้องย้ายเข้ามาอยู่ในบ้านด้วย ทำให้หนุ่ม ๆ หนีหายไปหมด ยกเว้น อินศวร คนเดียวที่ยอมรับข้อเสนอ จึงได้แต่งงานกัน หลังคุณนายคลอดลูกชายได้ 1 วัน อินศวรก็พาลูกหนีไปแล้วท่านผู้หญิงก็สิ้นใจ คุณนายน้ำเพชรรับความสูญเสียไม่ได้กลายเป็นคนเสียสติ