เรื่องย่อละคร 4 เทพผู้พิทักษ์ : เป็นเรื่องราวของ น้ำตาล(ผิงผิง ณิชา) นักข่าวสายอาชญากรรม ที่ได้รับคำสั่งเสียก่อนตายจากพ่อของเธอให้ตามหาเทพทั้ง 4 คือ เทพปฐพี(ตงตง กษฤกร) ,เทพธารา(ก้อง วิทยา) ,เทพวายุ(เพชร โบราณินทร์) และ เทพอัคคี(ซูริ ซูซานน่า) ที่ถูกสาปให้ลงมาอยู่บนโลกมนุษย์ เพื่อทำภารกิจตามหาของวิเศษทั้ง 4

วันนั้นหม่อมบุหลัน ของหม่อมเจ้ารังสิโยภาสแห่งวังรังสิยา ยืนมองเรือประทับของท่านชายแล่นออกจากท่า มองเห็นแสงตะเกียงอ่อนลงจนลับหายไปในที่สุด ในโสตประสาทยังแว่วเสียงสั่งเสียของท่านชายว่าถ้าบุหลันคลอดลูกก่อนท่านเสด็จกลับ ให้ตั้งชื่อลูกชายว่าหม่อมราชวงศ์ศักดินา ถ้าเป็นลูกหญิงให้ชื่อว่าหม่อมราชวงศ์หญิงวิมลโพยม พร้อมทั้งถอดสร้อยพระศอและเหรียญประทาน โดยท่านชายย้ำว่า ได้ฝากฝังบุหลันไว้กับหม่อมเจ้าหญิงแขไขเจิดจรัส พระชายาเรียบร้อยแล้ว

“ซุ่ย-บุษบา แก้วเกิด” (มาร์กี้-ราศรี บาเลนซิเอก้า) สาวโลกสีเทา จืดชืด มองตัวเองว่าไร้ความสวย ไม่รวย ขาดเสน่ห์ แต่งตัวเชย ทำงานไม่เก่ง โรส (มะลิ-มาลินี โคทส์) สาวโลกสีแดงสดใส มั่นใจ เป็นนักการตลาดมือทอง สวย รวย ฉลาด ทำงานเก่ง พูดภาษาอังกฤษเป็นไฟ ใครๆ ก็ชื่นชม แวนด้า (จ๊ะจ๋า-พิมพ์รตา เดชอุดม) สาวโลกสีม่วง เซ็กซี่ เย้ายวน…

ในงานแข่งขันกีฬาสีของโรงเรียนแห่งหนึ่ง ท่ามกลางเสียงเชียร์ดังกระหึ่มของกองเชียร์สีฟ้า หนูน้อยหน้าตาจิ้มลิ้มห้าคนตั้งหน้าตั้งตาเต้นนำเชียร์อย่างสุดกำลัง และในท่ามกลางหมู่กองเชียร์แม่ๆป้าๆ มีชายหนุ่มแปลกปลอมสองคนแต่งตัวด้วยชุดสีฟ้ายืนโดดเด่นสะดุดตาอยู่ พวกเขาคือ อนล (อภินันท์ ประเสริฐวัฒนกุล) และอนิล (ปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์) วโรดม สองหนุ่มที่มาให้กำลังใจ “เด็กหญิงมดตะนอย” (ด.ญ.นิชัญญา สุดประเสริฐ) หลานสาวคนเดียวที่ได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งในเชียร์ลีดเดอร์ อนล หรือ ลุงเสือ พี่ชายสวมแว่นตาดำปกปิดหน้าตา แต่งตัวด้วยเสื้อเชิ้ตกางเกงสแล็กส์ ค่อนข้างระวังพฤติกรรมของตน ต่างกับ อนิล หรือ ลุงช้าง ผู้เป็นน้องชายที่แต่งตัวด้วยเสื้อยืดและกางเกงยีนส์ สะพายกระเป๋าเป้สีชมพูแปร๋น…

พิมพ์พาย สิบแปดมงกุฎสาว กุหลาบยามราตรี เธอหาเลี้ยงตัวเองเธอด้วยการหลอกลวงผู้คน เก็บเงินทุกบาททุกสตางค์เพื่อเป้าหมายสำคัญ….นั่นคือ “การศัลยกรรมใบหน้า” ของเธอให้เหมือนกับ ภรันยา ลูกสาวเพียงคนเดียวของ นายภิรมย์ อัครศักดา ซึ่งเป็นพ่อผู้ให้กำเนิดพิมพ์พายด้วยเช่นกัน !!

“คุณท่านแม้นเทพ” ข้าราชการกระทรวงต่างประเทศ แอบไปมีความสัมพันธ์กับ “พิมพ์นิภา” น้องสาวของ “คุณหญิงพิมพ์นารา” ภรรยาของท่านชายแม้นเทพที่ป่วยด้วยโรคเลือดมาหลายปี จนพิมพ์นิภาท้องขึ้นมาด้วยความไม่ตั้งใจ พิมพ์นิภากลัวพี่สาวจะรู้จึงขอกลับไปบ้านที่ต่างจังหวัด แต่ท่านชายต้องการให้พิมพ์นิภาอยู่ จึงตัดสินใจพูดกับคุณหญิงพิมพ์นารา โดยคิดว่าคุณหญิงน่าจะเข้าใจและเห็นแก่น้องสาวของตนเองบ้าง แต่คุณหญิงพิมพ์นารากลับไม่พอใจอาละวาดด่าทอท่านชายแม้นเทพอยู่หลายครั้ง “

เป็นเรื่องเล่าจาก เต้ (รถเมล์ คนึงนิจ) หญิงสาวที่เคยต้องเจ็บปวดกับการถูกมือที่สามแย่งคนรัก เธอจึงเลือกที่จะเป็นมือที่สามแล้วไปแย่งคนรักคนอื่นบ้าง เพื่อที่จะได้ไม่ต้องเป็นฝ่ายที่เสียใจอีก แต่สุดท้ายเธอกลับต้องพบกับความเจ็บปวดเสียใจที่หนักหนายิ่งกว่าการเป็นมือที่สาม ความเจ็บปวดที่เธอเคยพบตอนโดนแย่งคนรักไป ยังไม่เจ็บปวดเท่าตอนนี้ที่เธอกำลังเป็นมือที่สามของคนอื่น แถมเต้ยังท้องกับสามีของคนอื่นอีก บทสรุปของการเป็นมือที่สามของเต้จะเป็นอย่างไร

นาทีนี้เรียกได้ว่าคงไม่มีใครไม่รู้จักซุปตาร์สาวสวยสะท้านวงการบันเทิงอย่าง พิมพ์ดาว แม้ว่าชื่อเสียงเรียงนามของเธอจะไพเราะจับใจแต่ว่านิสัยของเจ้าตัวนั้นไม่น่ารักเอาซะเลย เพราะเธอเป็นซุปตาร์สาวที่เต็มไปด้วยความขี้เหวี่ยง ขี้วีน แรงถึงขนาดที่ว่าสร้างศัตรูไปทั่ว จนทำให้คนรอบข้างถึงกับเอือมระอาและไม่ชอบขี้หน้าไปเต็มๆ แต่ก็หาได้แคร์ไม่ขึ้นชื่อว่าซุปตาร์แล้วไม่มีใครทำอะไรเธอได้หรอก แต่หารู้ไม่ว่าเธอได้สร้างศัตรูไว้คนหนึ่งถึงขนาดจ้างมือปืนมาลอบยิงพิมพ์ดาว แม้ปากจะบอกว่าไม่กลัวอะไรทั้งนั้น แต่เมื่อถึงสถานการณ์คับขันก็จำใจที่จะต้องจ้างบอดี้การ์ดส่วนตัว มาดูแลความปลอดภัยให้กับเธอและตกเป็นหน้าที่ของ ศิรัฐ บอดี้การ์ดหนุ่มหล่อแต่ปากจัดสุดๆ เขามักไม่ค่อยชอบดารามาแต่ไหนแต่ไรแล้ว และยิ่งมาเจอกับพิมพ์ดาวทำให้ทั้งคู่เหมือนลิ้นกับฟันที่พร้อมจะกัดกันได้ตลอดเวลา

“นุ่ม เบา สบาย…ก่อนตายต้องได้ลอง” นี่คือสโลแกนแบรนด์รองเท้าในฝันของ พริม สาวสวยกำพร้าสู้ชีวิตวัย 23 ปีผู้มีความ หลงใหลเรื่องรองเท้าชนิดเข้าเส้นเลือด พริมมุ่งมั่นตั้งใจว่าสักวันเธอจะมีแบรนด์รองเท้าเป็นของตัวเอง เพื่อสานฝันของ พาพร แม่ซึ่งเป็นอดีตช่างเย็บรองเท้าให้สำเร็จ และเพื่อตามหาเขาผู้ชายคนเดียวที่ได้ครอบครองหัวใจของเธอ แม้ว่าเขาจะทิ้งเธอกับแม่ไปตั้งแต่เธอยังไม่เกิดก็ตาม

คุณนายน้ำเพชร เป็นคุณนายที่ไม่เต็มบาท แต่ไม่มีใครกล้าหือเพราะว่าเป็นเจ้าของที่ให้เช่ามากมาย คุณนายรักษาผลประโยชน์ตัวเองเต็มที่จนชาวบ้านพูดว่า ลูกผัวไม่มีจะงกสมบัติไว้ให้ใคร คุณนายเป็นลูกสาวคนเดียวที่สืบทอดตระกูลของท่านเจ้าคุณและท่านผู้หญิง ถ้าหนุ่มคนไหนจะแต่งงานต้องยอมเปลี่ยนมาใช้นามสกุล พนมดุลยภาค แล้วต้องย้ายเข้ามาอยู่ในบ้านด้วย ทำให้หนุ่ม ๆ หนีหายไปหมด ยกเว้น อินศวร คนเดียวที่ยอมรับข้อเสนอ จึงได้แต่งงานกัน หลังคุณนายคลอดลูกชายได้ 1 วัน อินศวรก็พาลูกหนีไปแล้วท่านผู้หญิงก็สิ้นใจ คุณนายน้ำเพชรรับความสูญเสียไม่ได้กลายเป็นคนเสียสติ

เสียงฟ้าร้องกึกก้องกัมปนาท ณ ป่าสักทองแห่งหนี่ง สายฟ้าแลบส่องต้องร่างหมออาคมจอมขมังเวทย์ เห็นเป็นเงาดำทะมึน ภาพการต่อสู้ระหว่างมนต์ดำกับมนต์นางไม้เป็นไปอย่างดุเดือด แต่ครั้งนี้พลังความชั่วร้ายมีชัยเหนือพลังแห่งผู้พิทักษ์ผืนป่า เสียงหัวเราะเหี้ยมโหดของหมออาคมเยียบเย็นจับขั้วหัวใจ ในมือหยาบกร้านมีถุงผ้าลงอาคมสีดำเปิดอ้า ขวัญและดวงวิญญาณของเหล่านางไม้และรุกขเทวดาถูกดูดด้วยแรงมหาศาลเข้าไปในถุง ลอยคว้างตามติดกันเข้าไปไม่ขาดสาย ก่อนจะถึงคิว วนา นางไม้สาวผู้เป็นหัวใจของป่าแห่งนี้ สายฟ้าก็ฟาดเปรี้ยงลงตรงหน้าหมออาคมเหมือนว่าจะช่วยป้องกันภัยให้วนา เหล่าเทวดานางไม้ที่รู้ตัวว่าไม่อาจหนีเงื้อมือของหมออาคมได้ จึงตัดสินใจใช้พลังเฮือกสุดท้ายรวมกันสร้างแก้วกำบังให้กับวนา วนาตะโกนสุดเสียง ไม่มีทางที่เธอจะทิ้งเหล่าผู้เป็นเสมือนพี่น้อง สายตาหมออาคมกร้าวที่วนากำลังจะหลุดมือไป หมออาคมเร่งมนต์ดำเพื่อจะทำลายแก้วกำบังแต่ไม่เป็นผล แก้วกำบังพาวนาลอยออกไปไกล หมออาคมต้องตัดสินใจรวบปากถุงแล้วท่องคาถารัวเร็วเพื่อปิดผนึกกักขังดวงวิญญาณเหล่านั้น เสียงโหยหวนของเหล่าวิญญาณพิทักษ์ป่าเรียกน้ำตาที่แสนเจ็บปวดของนางไม้สาวออกมา ก่อนที่วนาจะเลือนหายลับไปด้วยความเศร้า

เรื่องราวของทายาทเจ้าของธุรกิจน้ำหอม มารุต (ธนภัทร กาวิละ) ที่ได้เดินทางมายัง หมู่บ้านแสงใต้ เพื่อสืบหาสาเหตุที่แท้จริง เกี่ยวกับการตายของผู้เป็นพ่อ แต่ระหว่างทางนั้นมารุตได้พบ สระแสงจันทร์ สระน้ำสีนวลลอองามราวสรวงสวรรค์ พร้อมกับ ดาว (อัญชสา มงคลสมัย) สาวสวยราวกับนางฟ้าที่นั่งทอดสะพานอยู่ใต้แสงจันทร์ ทำให้มารุตตกตะลึงในความงามราวกับโดนมนต์สะกด โดยหารู้ไม่ว่าแท้จริงแล้วเธอคือ…ภูตสาวที่กำลังออกล่าเหยื่อ